หัวข้อ
- #ปัญหาของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์
- #คดีขับไล่
- #แนวทางแก้ปัญหา
- #คดีขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์
- #ค้างจ่ายค่าเช่า
สร้าง: 2024-05-20
สร้าง: 2024-05-20 11:45
เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มาประมาณ 2.5 ปีแล้ว ยังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้และมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก
ได้พบกับผู้เช่าที่ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้แบบจำยอม จึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา
ในระหว่างที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้น ได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือ
การเรียกเก็บค่าเช่าที่ค้างจ่ายจากผู้เช่า
โชคดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้เช่าที่ค้างจ่ายค่าเช่าบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่เคยมีกรณีที่ผู้เช่าหายตัวไปแบบนี้มาก่อน จึงทำให้
ต้องคิดหนักว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี
การดำเนินธุรกิจให้เช่ามักจะเกิดปัญหาเรื่องผู้เช่าค้างจ่ายค่าเช่า ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด!!!
หากสามารถแก้ปัญหาในครั้งนี้ได้ดี ก็คาดว่าจะลดความเครียดจากปัญหาค่าเช่าค้างจ่ายลงได้มาก
ผู้เช่ารายนี้สร้างความปวดหัวให้เราด้วยวิธีการที่แปลกใหม่ โดยการหายตัวไป ซึ่งเป็นวิธีการที่ยากต่อการรับมือ
รู้สึกอึดอัดและเครียดมาก เนื่องจากไม่รู้ว่าจะติดต่อสื่อสารกับเขาอย่างไร
ขั้นแรกได้จัดทำเอกสารแจ้งเตือน (หนังสือบอกกล่าว) เกี่ยวกับการบอกเลิกสัญญาเช่าเนื่องจากค้างจ่ายค่าเช่าเกิน 2 งวด แล้วส่งไปทางไปรษณีย์
โดยทั่วไปแล้ว การได้รับหนังสือบอกกล่าวที่มีข้อความที่เป็นทางการ จะทำให้ผู้เช่า
รู้สึกกดดันและยุติปัญหาได้ แต่
ผู้เช่าของเราได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้วแต่ก็ยังไม่ตอบสนองใดๆ และยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม
จึงได้ส่งข้อความแจ้งการบอกเลิกสัญญาอีกครั้ง และตัดสินใจยื่นฟ้องขับไล่ (ฟ้องร้องเพื่อขอคืนทรัพย์สิน)
การตัดสินใจยื่นฟ้องขับไล่นั้นทำให้รู้สึกเครียดอยู่บ้าง แต่
พอเริ่มต้นดำเนินการแล้วกลับรู้สึกสบายใจขึ้น
ในระหว่างที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นฟ้องขับไล่จากวิดีโอทาง Youtube
พบว่าการยื่นฟ้องขับไล่นั้นใช้เวลานาน และแม้ว่าจะชนะคดีและได้รับคำสั่งจากศาลแล้ว
แต่ถ้าหากผู้เช่าได้โอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ให้ผู้อื่นไปแล้ว ก็จำเป็นต้องยื่นฟ้องขับไล่อีกครั้ง
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงควรยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ก่อนยื่นฟ้องขับไล่ ซึ่ง
คำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หมายถึง
การยื่นฟ้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามผู้เช่ารายปัจจุบันโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ให้ผู้อื่น
การยื่นฟ้องขับไล่นั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องมีการบังคับขับไล่ ซึ่งความจริงแล้ว
เป้าหมายของฉันคือการโน้มน้าวให้ผู้เช่ากลับใจและย้ายออกไปด้วยดี ไม่ได้ต้องการ
ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง เช่น การใช้กำลังบังคับเอาทรัพย์สินของผู้เช่าออกไป จึงคิดว่า
การยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ
หากค้นหาข้อมูลใน Youtube ดีๆ จะพบกับวิดีโอที่อธิบายขั้นตอนการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างละเอียด
จึงได้ศึกษาจากวิดีโอแล้วดำเนินการยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ดูเหมือนว่าจะสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องจ้างทนายความ
https://youtu.be/tvGpKepGhow?si=walV7G6gnH4mfWI5
หลังจากอัปโหลดเอกสารที่จำเป็นตามขั้นตอนที่ระบุไว้แล้ว ก็รออยู่สักพัก
ศาลก็มีคำสั่งให้แก้ไข (คำสั่งให้แก้ไข)
เป็นคำสั่งให้แก้ไขเอกสารที่ยื่นไป เนื่องจากมีข้อบกพร่อง
หลังจากยื่นคำขอแก้ไขตามคำสั่งแล้ว
ศาลก็มีคำสั่งให้ชำระเงินฝาก (เงินวางมัดจำ) หรือ
ยื่นสัญญาการค้ำประกันการชำระเงิน (ประกันภัย) เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกฟ้อง (ผู้เช่า)
จึงตัดสินใจทำประกันภัย
นำคำสั่งของศาลไปยื่นที่บริษัทประกันภัยกรุงเทพ (กรุงเทพประกันภัย) และผ่านขั้นตอนการตรวจสอบต่างๆ เสร็จแล้วก็ชำระเบี้ยประกันภัย (15,000 บาท) เอกสารประกันภัย
จึงถูกส่งไปยังศาลโดยอัตโนมัติ
หลังจากทำประกันภัยไปหนึ่งวัน ศาลก็มีคำสั่งห้ามโอนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (คำสั่งศาล)
เมื่อส่งคำสั่งศาลนี้ไปให้ผู้เช่าดู ปรากฏว่าผู้เช่าที่ติดต่อไม่ได้ก็ติดต่อกลับมาและแจ้งว่าจะย้ายออกจากที่พัก
ความคิดเห็น0